20160411

Home กับ House ต่างกันอย่างไร



Home กับ House นั้นต่างก็หมายถึง บ้าน เหมือนกัน


แต่ Home จะให้ความหมายที่เป็นนามธรรมมากกว่า House

โดย Home ให้ความรู้สึก ครอบครับ เน้นความรักความอบอุ่นอบอุ่น มีความผูกพันธ์กันระกว่างคนในครอบครับว่าเป็นบ้านของเรา

ส่วน House นั้นจะหมายถึง ตัวอาคาร โครงสร้าง ตึกต่างๆ อย่างเดียวเท่านั้น



ตัวอย่างสำนวนที่พูดถึงคำว่า House และ Home ได้อย่างชัดเจน
A house is made of brick and stone. A home is made of love alone.

20160325

Much vs Many vs A lot ทั้ง 3 คำนี้ใช้ยังไง ต่างกันอย่างไร


Much, Many และ A lot เป็นคำที่ใช้บอกจำนวน ทั้งสามคำนี้ หลายๆคนอาจจะสับสนและบางครั้งอาจจะใช้งานผิดได้ ในบทความนี้จะมาบอกวิธีการใช้งานและหลักการใช้งาน เราจะได้ใช้งาน Much, Many และ A lot ได้อย่างถูกต้อง

Much: การใช้ much นั้นต้องตามด้วย uncountable (นามนับไม่ได้)
ตัวอย่าง
I drink too much coffee. (กาแฟเป็นนามนับไม่ได้)
How much? (ราคาเท่าไร ใช้กับเงิน ซึ่ง เงินเป็นนามนับไม่ได้)

Many: การใช้ many ต้องตามด้วย countable (นามนับได้)
ตัวอย่าง
I ate too many apples.
How many dogs in your house?  

A lot: ส่วนการใช้งาน a lot เราสามารถใช้กับ uncountable (นามนับไม่ได้) และ countable (นามนับได้)
ตัวอย่าง
I drink a lot of coffee.
I ate a lot of apples.

ตารางสรุปการใช้งาน Many, Much และ A lot กับ uncountable (นามนับไม่ได้) หรือ countable (นามนับได้)


20160318

การอ่านตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ถูกต้องทั้ง 26 ตัว (Alphabet - Radiotelephony)

 

การอ่านตัวอักษรในภาษาอังกฤษที่ ถูกต้อง Alphabet – Radiotelephony (ซึ่งในวงการการบินใช้กันเพื่อจะได้สื่อสารได้อย่างถูกต้องว่าผู้พูดหมายถึงตัวอกษรตัวไหนกันแน่ในภาษาอังกฤษ)ต้องอ่านตามนี้กันนะ

A-Alfa
B-Bravo
C-Charlie
D-Delta
E-Echo
F-Foxtrot
G-Golf
H-Hotel
I-India
J-Juliett
K-Kilo
L-Lima
M-Mike
N-November
O-Oscar
P-Papa
Q-Quebec
R-Romeo
S-Sierra
T-Tango
U-Uniform
V-Victor
W-Whiskey
X-X-ray
Y-Yankee
Z-Zulu


และนี้เป็น 26 ตัวอักษร ที่ใช้กัน เพื่อสื่อสารให้อีกฝ่ายได้ทราบว่าเราหมายถึงตัวอักษรตัวไหน จดจำไว้มีประโยชน์แน่นอนจ้า

เวลาตั้งคำถามจะใช้ Do หรือ Are ดีละ?


ก่อนจะมาดูหลักการการเลือกใช้กับคำถามเรามาดูการใช้งานและตัวอย่างกันก่อน  โดยการใช้งานตั้งคำถามโดย Do หรือ Are นั้นเราสามารถ แบ่งได้เป็น 2 แบบดังนี้ก็คือ

1. Do/Does + the base verb (กริยาช่อง 1)
ตัวอย่าง
you/they/we
Do you like me?
Do we go to the mall?

he/she/it
Does he like her?
Does she like her?


2. Are/Is + คุณศัพท์ (Adj) หรือ คำนาม noun  
ตัวอย่าง
Are you a doctor?
Am I crazy?
Is she crazy?
Is he OK?

สำหรับหลักการในการเลือกใช้นั้นก็คือให้ถามตัวเราเองว่าคำถามที่เราจะถามนั้น มันเกี่ยวกับ เป็น หรือ ไม่เป็น ของสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือ เปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นให้ใช้แบบที่ 2 คือใช้ Are หรือ Is     แต่ถ้าหากไม่ใช่ก็ให้ถามแบบที่ 1 คือใช้ Do หรือ Does

20160309

No. ตามด้วยตัวเลข คืออะไรนะ???


เพื่อนๆเคยเขียนตัวเลขบอกลำดับในภาษาอังกฤษบ้างไหม เราเขียน No ไว้นำหน้าตัวเลขกันใช่ไหม แล้วสงสัยกันหรือป่าวว่ามันย่อมาจากอะไร แล้วทำไมต้องเขียนว่า No กันนะ
 No นั้นย่อมาจาก Numero หรือ Numero sign   มาจากภาษาลาติน เพี้ยนจาก numerus แปลว่า by the number, with the number หรือ ตัวนับนั้นเอง
 ส่วนการที่เราจะอ่านคำว่า No เราสามารถออกเสียงอ่านได้ว่า Number นั้นเอง ไม่ได้ออกเสียงว่า โน  นะจ๊ะ

ที่จริงแล้ว No สามารถเขียนได้หลายแบบเช่น Nº , No , No., no. เราเรียกว่า สัญลักษณ์ Numero  นั้นเอง สามารถเขียนแทน No กันได้หมด

ทั้งนี้การใช้ Nº การยังแพร่หลายในยุโรปเช่น อีตาลี โปรตุเกส สเปน และ รัสเซีย
โดยสมัยก่อนถึงขั้นมีปุ่มสัญลักษณ์ Nº โดยเฉพาะอีกด้วย


ทีนี้ก็เข้าใจกันแล้วใช่ไหมว่า No คืออะไร


20160308

ภาษาพูดและภาษาเขียนใน ภาษาอังกฤษ


ภาษาอังกฤษมีทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน ซึ่งส่วนใหญ่ภาษาพูดมักจะย่อหรือละคำจากภาษาเขียนที่มีความยาวเพื่อให้การพูดคุยมีความเป็นกันเอง ไม่เป็นทางการมากเกินไป บางครั้งเราจะพบว่าบางทีภาษาอังกฤษที่ฝรั่งพูดเราก็ไม่เคยได้เรียนหรือได้พบเจอประโยคนั้นๆเลย นอกจากจะได้พูดคุยกับเจ้าของ

ภาษาถึงจะทราบเอง ในบทความนี้มีประโยคตัวอย่างที่ใช้ในชีวิตประจำวันมาให้ผู้อ่านได้นำไปใช้ในภาษาพูดเพื่อลดความเป็นทางการลง(Informal) ทำให้การพูดคุยมีความเป็นกันเองมากขึ้น เช่น

ภาษาเขียนหรือภาษาพูดที่เป็นทางการ (formal) : How are you doing?
ภาษาพูดที่ไม่เป็นทางการ (informal) : How you doing?  หรือ  How ya doing?

ภาษาเขียนหรือภาษาพูดที่เป็นทางการ (formal) : Where are you going?
ภาษาพูดที่ไม่เป็นทางการ (informal) : Where ya going?

ภาษาเขียนหรือภาษาพูดที่เป็นทางการ (formal) : How have you been?
ภาษาพูดที่ไม่เป็นทางการ (informal) : How ya been?  I’ve been grate.

ภาษาเขียนหรือภาษาพูดที่เป็นทางการ (formal) :Where have you been?
ภาษาพูดที่ไม่เป็นทางการ (informal) : Where ya been?

และนี้ก็เป็นตัวอย่างเบื้องต้นที่เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้นะจ๊ะ

20160307

รู้ไหมว่า AKA แปลว่าไร?


มีใครเคยเห็นคำนี้ไหม AKA หรือว่าเคยได้ยินกันบ้างหรือป่าว สงสัยกันไหมว่ามันแปลว่าอะไร
ตอนแรกที่เห็นคำนี้นึกว่าเป็นคำศัพท์คำใหม่ แต่ทำไมออกเสียงว่า เอ เค เอ

ก็เลยไปหาคำตอบมา ปรากฏว่าที่แท้มันคือคำย่อนี้เอง ฝรั่งชอบย่อกันจริงๆ

AKA หรือ aka เป็นคำย่อภาษาอังกฤษย่อมาจาก also known as แปลว่า   เป็นที่รู้จักกันในชื่อ, ที่เรียกกัน, เป็นที่รู้จักกัน AKA ใช้กันในการ chat ส่งข้อความกันตามอินเตอร์เน็ต (ขี้เกียจพิมพ์กันนั้นเอง)

สำหรับการนำไปเขียนจะต้องใช้คำเต็มนะ เป็น also known as ห้ามย่อ ส่วนเวลาพูดถ้าเป็นทางการก็ควรจะพูดเต็มๆ (แต่ทางอเมริกาชอบพูดตัวย่อกันเยอะมากๆ)

ตัวอย่างประโยคที่ใช้ AKA
This is John Smith, also known as Edward Johnson.
Thongchai McIntyre, aka Phi Bird.
Japanom Yeerum, aka Tony Jaa